ทําความรู้จักกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

ปัจจุบันผู้จัดจำหน่ายรถยนต์วอลโว่บางแห่งมีสถานีชาร์จแบบด่วน ซึ่งคุณจะได้เพลิดเพลินกับส่วนลดในการชาร์จ เมื่อคุณเลือกสถานีชาร์จของวอลโว่

ใช้คอนโซลกลางหรือ Volvo Cars app เพื่อค้นหาสถานีชาร์จในบริเวณใกล้เคียงบน Google Maps โดยกรองตามความพร้อมใช้งาน ความเร็วของเครื่องชาร์จ เครือข่ายการชาร์จ และราคา เมื่อคุณเลือกจุดหมายปลายทางแล้ว คุณจะได้รับการนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว

ในรถยนต์บางรุ่น คุณจะเห็นระดับการชาร์จที่คาดการณ์เมื่อไปถึง และแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณจะถูกปรับสภาพล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่จะมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการชาร์จอย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมใช้งานในพื้นที่ที่มีบริการของ Google

EX90, รถ SUV ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบขนาด 7 ที่นั่งของเรามีระยะการเดินทางด้วยไฟฟ้าไกลที่สุดถึง 600 กม*

ตัวเลขเหล่านี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นจากการประมาณและการคำนวณที่ดำเนินการโดย Volvo Cars สำหรับ Volvo EX90 และไม่รับประกันผลลัพธ์เหล่านี้ ระยะการขับขี่และการใช้พลังงานที่เกิดขึ้นภายใต้สภาวะจริงจะแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการขับขี่ และปัจจัยภายนอกอื่นๆ เวลาในการชาร์จอาจแตกต่างกันไปและขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิของแบตเตอรี่ อุปกรณ์ชาร์จ สภาพแบตเตอรี่ และสภาพรถยนต์ การรับรองรถอยู่ในระหว่างดำเนินการ

เมื่อคุณซื้อรถยนต์วอลโว่ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบใหม่ แบตเตอรี่ของคุณจะได้รับการคุ้มครองเป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กม. แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน โดยที่รถยนต์และแบตเตอรี่ต้องได้รับการบำรุงรักษาและใช้งานตามคำแนะนำของ Volvo Cars

แบตเตอรี่และโมดูลแบตเตอรี่สามารถเปลี่ยนได้เช่นเดียวกับชิ้นส่วนทางเทคนิคอื่นๆ ของรถยนต์

แบตเตอรี่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของเรามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 500 กก. ซึ่งจะทำให้ผลกระทบของการชนต่อผู้โดยสารในรถและยานพาหนะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนไป โดยแบตเตอรี่ยังต้องได้รับการปกป้องเพื่อหลีกเลี่ยงการรั่วไหลที่เป็นอันตรายหลังจากการชนกันอีกด้วย วิศวกรของ Volvo Cars จึงได้ออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบให้ตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านี้ ด้วยการใช้โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ด้านความปลอดภัยอันหลากหลาย

มอเตอร์ไฟฟ้าในรถยนต์ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบของเราได้รับการปิดผนึกตลอดอายุการใช้งาน เนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวหรือการเติมของเหลว จึงไม่ต้องบำรุงรักษา ซึ่งหมายความว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปแล้ว รถยนต์วอลโว่ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่ามาก

ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ตลอดอายุเฉลี่ยของการใช้งานของรถยนต์ น้อยกว่ารถยนต์แบบดั้งเดิมที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อย่างไรก็ตาม ระยะทางในการขับขี่เพื่อให้รถยนต์ BEV มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณที่น้อยกว่ารถยนต์ ICE ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับรถยนต์นั้นผลิตขึ้นมาอย่างไร

หากคุณชาร์จรถยนต์ BEV ของคุณด้วยพลังงานหมุนเวียน การขับขี่ไปจนถึงจุดที่คาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำกว่าก็จะน้อยลง เทียบกับเมื่อคุณใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เราแนะนำให้คุณเติมพลังให้รถยนต์ไฟฟ้าของคุณด้วยไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความโปร่งใสอย่างเต็มที่เกี่ยวกับผลกระทบด้านคาร์บอนของรถยนต์ไฟฟ้าของเรา โดยเราได้ทำการวิเคราะห์วงจรชีวิต (LCA) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบบางรุ่นของเรา โปรดดูหน้าคำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของวอลโว่ที่คุณสนใจเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

Volvo Cars ให้ความสำคัญกับห่วงโซ่อุปทานของวัตถุดิบแบตเตอรี่เพื่อการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ ในปี พ.ศ.2562 เราได้เปิดตัวบล็อกเชนเพื่อให้สามารถติดตามโคบอลต์ที่ใช้ในแบตเตอรี่ของเราตั้งแต่เหมืองไปจนถึงรถยนต์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราก็ได้ขยายขอบเขตออกไปให้ครอบคลุมถึงนิกเกิล ลิเธียม และการติดตามการปล่อยคาร์บอน

นอกจากนี้เรายังมีโปรแกรมการตรวจสอบที่ครอบคลุมซัพพลายเออร์ในห่วงโซ่อุปทานของแบตเตอรี่อีกด้วย การตรวจสอบจะดำเนินการโดยเทียบกับ OECD Due Diligence Guidance สำหรับห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุที่มีความรับผิดชอบจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและมีความเสี่ยงสูง และมาตรฐาน IRMA สำหรับข้อกำหนดที่สำคัญในการทำเหมืองอย่างมีความรับผิดชอบ หรือแผนการที่เทียบเท่าสำหรับการทำเหมือง

ผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินและคัดเลือกซัพพลายเออร์ของเรา เราติดตามประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ที่มีอยู่ของเราอย่างต่อเนื่อง และทำงานร่วมกับพวกเขาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์และบริการของเรา

อ่านเพิ่มเติมได้ใน หลักจรรยาบรรณสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจของ Volvo Car Group และ รายงานประจำปีและรายงานด้านความยั่งยืนของ Volvo Car Group (หน้า 172 ถึง 17)